บล็อกนี้จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการเรียนการสอนในราวิชาอินเตอร์เน็ตในชีวิตประจำวัน

วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2555

การคิดภาษีรถยนต์นำเข้า

ส่วนที่นำเข้ามาอีกอย่างคือแบบ Invoice

  รถ Invoice ส่วนมากจะนำเข้ามาในรูปแบบ อะไหล่ชิ้นส่วน เสียภาษีศุลกากร ประเภทอะไหล่ แต่ไม่ได้ เสียภาษีสรรพสามิต ในรูปแบบรถทั้งคัน อย่างน้อย ถ้าเสียภาษีสรรพสามิต แล้วว่าเป็นรถ ทั้งคันประกอบเสร็จ ก็อาจ นำใบที่กรมสรรพสามิต ออกยืนยัน ตัวรถ ไปลองจดทะเบียนที่ กรมการขนส่งได้ นะ อาจจะทำทะเบียนได้ในราคาถูกเหมือนรถทั่วไปก็ได้นะลักษณะที่พี่น้องชาว Supercar ใช้กันอยู่ คือ
1) ชิ้นส่วนอะไหล่ --> เสียภาษีศุลกากรขาเข้ารูปแบบอะไหล่ใช้แล้ว -->อะไหล่มาประกอบเป็นรถเต็มคันสามารถวิ่งได้ --> รถเถื่อน

2) ชิ้นส่วนอะไหล่ --> เสียภาษีศุลกากรขาเข้ารูปแบบอะไหล่ใช้แล้ว --> ทำอะไหล่ประกอบเป็นรถเต็มคันสามารถวิ่งได้ -->เสียภาษีสรรพสามิต ประเภทยานยนต์พาหนะ --> รถเต็มคันที่ถูกต้องตาม กม. --> เป็นรถไม่มีทะเบียนยังไม่สามารถใช้วิ่งตามท้องถนนได้

3) ชิ้นส่วนอะไหล่ --> เสียภาษีศุลกากรขาเข้ารูปแบบอะไหล่ใช้แล้ว --> ทำอะไหล่ประกอบเป็นรถเต็มคันสามารถวิ่งได้ -->เสียภาษีสรรพสามิต ประเภทยานยนต์พาหนะ --> รถเต็มคันที่ถูกต้องตาม กม. --> นำไปตรวจสภาพ จดทะเบียนที่ขนส่ง --> เป็นรถถูกต้องตามกม. สามารถนำมาวิ่งได้ตามปกติ.


   ตาม หัวข้อที่ 1 เสียแค่ภาษีศุลกากรขาเข้าในรูปแบบชิ้นส่วนอะไหล่ ได้ Invoice แต่นำรถมาประกอบเป็นคันใช้สอย ผิดจุดประสงค์ ถูกจับ เจ้าพนักงานมีสิทธิ์ สังปรับนำรถไม่เสียภาษีป้ายมาวิ่งในทาง ยึดไว้ตรวจสอบว่าเป็นรถจารกรรมมาหรือไม่ เพราะเป็นรถที่ประกอบเองจากชิ้นส่วนอะไหล่ ไม่สามารถชี้ชัดหรือยืนยันแน่ชัดของที่มาในชิ้นส่วนได้ยกเว้นแค่ โครงรถ,และเครื่องยนต์ เท่านั้นที่มีเอกสารทางศุลกากรออกกำกับให้ ทางเจ้าพนักงานมีสิทธิ์ ยึดไว้ตรวจสอบและส่งให้ทางสรรพสามิต เทียบปรับปรับอีกครั้ง.

   ตาม หัวข้อที่ 2 ตามหัวข้อที่ 1 เสียแค่ภาษีศุลกากรขาเข้าในรูปแบบชิ้นส่วนอะไหล่ ได้ Invoice นำรถมาประกอบเป็นคัน แล้ว ยืนเรื่อง ให้กรมสรรพสามิตตรวจสอบประเมินราคาและเสียภาษี เมื่อผ่านมีหนังสือยืนยัน เทียบเท่าได้กับรถที่ประกอบ สมบรูณ์เป็นรถหนึ่งคันสามารถวิ่งได้ แต่ไม่สามารถใช้ในทางหลวงได้ ถ้าถูกจับโดย ตร. จะเทียบได้กับ รถจักรยานยนต์ เล็ก ที่ไม่มีป้าย หรืออยู่ในระหว่างรอป้าย เจ้าพนักงานจะแจ้งข้อหาเทียบปรับ นำรถที่ไม่เสียภาษีป้ายมาวิ่งในทาง ส่วนเรื่องยึดรถไว้เพื่อตรวจสอบจารกรรมนั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจขอเจ้าพนักงานเท่านั้น ส่วนจะยึดเพื่อส่งต่อให้ทางสรรพสามิตนั้น คงตกไป เพราะได้ผ่านการตรวจสอบและเสียภาษีแล้ว ถ้าเจ้าของรถมีเอกสารยืนยัน การมีตัวตนของเจ้าของและการเสียภาษีสรรพสามิตที่ถูกต้อง ก็พ้นจากการยึดรถไว้ตรวจสอบ แต่จะต้องถูกปรับ ในข้อหานำรถที่ไม่เสียภาษีป้ายมาใช้ในทาง.

   ตามหัว ข้อที่ 3 รถคันนี้ได้เสีย ภาษีศุลกากรขาเข้า,ภาษีสรรพสามิตรูปแบบ ยานยนต์,นำรถไปตรงสภาพและจดทะเบียนป้าย เมื่อผ่านทางกรมการขนส่งทางบก ออกป้ายมาแล้วให้ถือว่าสิ้นสุด รถคันนั้น ได้เป็นรถที่ถูกต้องตาม กม. ที่ได้รับอนุญาตใช้วิ่งในทางได้** เจ้าพนักงานมีสิทธิ์ จับและเทียบปรับได้ในข้อหา วิ่งขวา,ผ่านไฟแดง,ขับโดยประมาท,ดัดแปลงชิ้นส่วน,อุปกรณ์พื้นฐานไม่ครบ เท่านั้น.

ก่อนอื่นต้องนำรถที่นำเข้ามาจดทะเบียนก่อนนะครับ
เอกสารประกอบคำขอ ดังนี้
1.  หลักฐานเกี่ยวกับบุคคลเจ้าของรถ
2.  ใบรับรองการนำเข้าจากกรมศุลกากร
3.  สำเนาใบขนสินค้าขาเข้าฯ บัญชีแสดงรายการสินค้า (INVOICE) และใบเสร็จรับเงิน ค่าอากรขาเข้า
4.  หลักฐานการเอาประกันภัยตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถฯ
5.  หนังสือมองอำนาจ(กรณีมิได้มาดำเนินการเอง)  พร้อมภาพถายบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ
ที่มา http://board.postjung.com/546925.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น